MFEC วางเป้าปี’67 รายได้ 6.7 พันล้าน รับตลาดไซเบอร์ซีเคียวริตี้โตแรง


MFEC-Cybersecurity

“MFEC” ชี้ “ไซเบอร์ซีเคียวริตี้” โตแรง หวังหนุนรายได้ปี 2567 ที่ 6,734 ล้านบาท โตจากปีก่อนหน้า 11.4% พร้อมจัดงาน MFEC Cyber Sec Pro 2 สร้างความตระหนักรู้ภาครัฐ-เอกชน

วันที่ 24 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมตลาดไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (Cybersecurity) ในประเทศไทยปี 2567 โต 1.4 หมื่นล้านบาท หรือมีอัตราเติบโตทบต้นต่อปี (CAGR) 14.10%

อีกทั้ง Cybersecurity Ventures องค์กรด้านการวิจัยและเก็บรวบรวมสถิติด้านเศรษฐกิจและไซเบอร์ซีเคียวริตี้ระดับโลก คาดการณ์ว่าความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางไซเบอร์อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกถึง 9.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในปี 2567 และอาจสูงขึ้นถึง 10.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในปี 2568

ในขณะที่ข้อมูลจาก Krungthai COMPASS ระบุว่า การประเมินมูลค่าการลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของไทยจากปี 2565 คาดว่าจะเติบโตทบต้นต่อปี 13% ไปอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท ในปี 2568 ทำให้รายได้รวมของอุตสาหกรรมระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของไทยเพิ่มขึ้นจาก 4.4 พันล้านบาท ในปี 2565 เป็น 6.3 พันล้านบาท ในปี 2568 หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ย12.3% และธุรกิจให้บริการติดตั้งระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น ซึ่งคาดว่าจะเติบโตที่ปีละ 14.5%

โดยปัจจัยที่ทำให้การลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือภัยไซเบอร์และความท้าทายรูปแบบใหม่ ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงขึ้น ผนวกกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผลักดันให้องค์กรต้องหาโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ และเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์การตอบโต้เชิงรุก เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

ทั้งนี้ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ผู้ให้บริการด้านไอที ร่วมกับพันธมิตรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกมากกว่า 20 ราย จัดงาน MFEC Cyber Sec Pro 2: The cybersecurity bridge between digital world and human เพื่อชี้ให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเห็นถึงความสำคัญกับเทคโนโลยีและ Generative AI (Gen AI) ควบคู่ไปกับการวางแผนกลยุทธ์ในการยกระดับแรงงานดิจิทัล (Digital Workforce) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น

MFEC Cyber Sec Pro 2
บรรยากาศงาน MFEC Cyber Sec Pro 2

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางการลงทุนจะมาจาก Integration Solution ในลักษณะการเป็น Single Partner, Enterprise Agreement, และธุรกิจ Security Managed Services

โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงตลาดไซเบอร์ซิเคียวริตี้มีความสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการหดตัวของการลงทุนในประเทศไทย ทำให้ลูกค้าของ MFEC ต้องปรับตัวตาม แต่ธุรกิจไซเบอร์ซิเคียวริตี้ของ MFEC ยังคงเติบโตได้ดี และเป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้

“เราใช้กลยุทธ์ Tech with Propose สร้างความมั่นใจและรักษาฐานลูกค้า และนำเทรนด์ AI มาต่อยอดเป็นบริการโซลูชันใหม่เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน”

ด้านนายดำรงศักดิ์ รีตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) เสริมว่า เทคโนโลยีและ Gen AI เข้ามามีบทบาทในธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้มากขึ้น ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาความผิดปกติในระบบ และปรับรูปแบบการใช้งานให้เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการโจมตี

ในขณะเดียวกัน องค์กรจำเป็นต้องวางกลยุทธ์ในการพัฒนาบุคลากรแรงงานดิจิทัลให้พร้อมใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างยั่งยืน

การนำ Gen AI มาใช้เพื่อต่อกรกับภัยไซเบอร์เป็นการช่วยผ่อนแรงมากกว่าการมาแทนที่ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ซึ่งต้องอาศัยการตัดสินใจในหลากหลายมิติ ทั้งความถูกต้อง จริยธรรม ข้อบังคับ และผลเสียหายทางธุรกิจ ยังต้องใช้มนุษย์ในการตัดสินใจอยู่

“การใช้เทคโนโลยีไซเบอร์ซิเคียวริตี้ และ Gen AI เพื่อป้องกันภัยเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการลงทุนในทักษะและความรู้ของบุคลากรทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง คือวิธีที่จะก้าวนำหน้าอาชญากรไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น”

นายดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน MFEC มี Cybersecurity Engineer กว่า 120 คนที่พร้อมให้บริการ โดยบริษัทวางแผนที่จะขยายตลาดและเติบโตในธุรกิจนี้อย่างก้าวกระโดดผ่านการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มองค์กรขนาดกลาง (Mid-size) มากขึ้น รวมถึงการให้บริการแบบ Managed Service เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาครัฐและเอกชน

โดยตั้งเป้าว่าปี 2567 ภาพรวมกลุ่มธุรกิจ MFEC จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 11.4% จากปีที่ผ่านมา หรือมีรายได้ 6,734 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มไซเบอร์ซิเคียวริตี้ประมาณ 25%

“เรามุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากร ไม่เพียงแค่การเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนให้บุคลากรได้รับการรับรองจาก Certificate มาตรฐานสากลต่าง ๆ สะท้อนถึงความพร้อมในการให้บริการด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง



Source link

Post a Comment

Previous Post Next Post