แจกเงิน 10,000 บาทเริ่มโอนแล้ว ฟื้น “เราเที่ยวด้วยกัน” กระตุ้นเศรษฐกิจ


เริ่มโอน 10,000 บาทกลุ่มแรกหลังเที่ยงคืน 24 ก.ย. นายกฯคิกออฟเปิดโครงการแบ่งจ่าย 4 รอบ วันที่ 25-30 ก.ย. ได้รับตามลำดับเลขบัตรประชาชน กลุ่มคนพิการได้ก่อน รมช.คลังชี้เฟส 2 ไม่ทันปีนี้ แต่จะทำให้เร็วที่สุด เดินหน้าคู่ขนานแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทรวงการท่องเที่ยวฯชงแผนปลายเดือน ก.ย. เล็งฟื้น “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “คนละครึ่ง” จูงใจท่องเที่ยว

“อิ๊งค์” คิกออฟแจกเงินหมื่น

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาทตามกำหนดได้เลยหรือไม่ นายกฯพยักหน้ารับ พร้อมกล่าวว่า “ได้ค่ะ”

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการโอนเงิน 10,000 บาท ไปยังกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนนั้น จะเริ่มทยอยตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 25 กันยายน และ น.ส.แพทองธาร จะเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการในเวลา 09.00 น. วันที่ 25 กันยายน

“ส่วนการกำหนดกรอบให้ผู้ที่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียน ยังไม่เห็นในวาระ แต่น่าจะมีการมอบหมายให้ไปดำเนินการ เพราะยังคงมีส่วนราชการที่จะดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้เดินหน้าต่อไป พร้อมยืนยันว่าการเติมเงิน 10,000 บาท ในเฟสแรกราบรื่นเดินหน้าแน่นอน เฟสต่อไปเราเริ่มเห็นสภาพแล้วต้องเร่งรัดดำเนินการในการตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ให้ครบถ้วนตามกฎหมายต่อไป” นายจุลพันธ์กล่าว

ตรวจสิทธิผ่านแอป “รัฐจ่าย”

นายจุลพันธ์ยังระบุว่า ผู้ที่ได้รับสวัสดิการขอให้ไปตรวจสอบว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิในวันที่ 25 กันยายนนี้ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น “รัฐจ่าย” ซึ่งแอปดังกล่าวเป็นของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และมีออกมานานแล้ว ผู้ที่ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ จะเข้าเข้าไปเช็กสิทธิได้ ส่วนกรณีที่มีมีข่าวว่าประชาชนเข้าไปในแอปพลิเคชั่นและไม่สามารถเปิดได้นั้น ก็ถ้าหากมีคนเข้าพร้อมกันจำนวนมาก ๆ ก็อาจจะมีช้าบ้าง แต่ตัวแอปพลิเคชั่นไม่ได้ล่ม

จ่อออกมาตรการกระตุ้นอีก

รมช.คลังกล่าวถึงการโอนเงินให้กับกลุ่มเปราะบางว่า เนื่องจากระบบการโอนผ่านพร้อมเพย์มีข้อจำกัด สามารถโอนได้วันละไม่เกิน 4.5 ล้านคน จึงแบ่งไปตามเลขท้ายบัตรประชาชน กระบวนการเตรียมการทุกอย่างพร้อมสรรพหมดแล้ว

ส่วนกรณีเฟสสองจะทันภายในปีนี้หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า “ปีนี้น่าจะยาก เพราะติดปัญหาเรื่องระบบ ส่วนไตรมาสแรกของปีหน้าจะทันหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวติดตลกว่า อย่าเอาคำเช่นนั้นเลย ครั้งที่แล้วโดนทวงจนเหนื่อย แต่จะรีบที่สุด เพราะเราทราบว่าความต้องการของประชาชนคือการเร่งรัดในเรื่องนี้”

เมื่อถามว่าจะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ อีกหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า มี โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายโครงการ ซึ่งดิจิทัลวอลเลตเป็นเพียงแค่โครงการหนึ่งเท่านั้น เพราะประชาชนต้องการเงินให้ถึงมือเพื่อแบ่งเบาค่าครองชีพ รวมถึงการรีสกิลและอัพสกิลที่เป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ

พม.ส่งชื่อผู้พิการ 2.1 ล้าน

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงยอดจำนวนผู้พิการที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ว่า ล่าสุดผู้ที่มีสิทธิตอนนี้ที่ทางกระทรวง พม. ได้ส่งให้กับกระทรวงการคลัง มีประมาณ 2,100,000 คน แต่ได้รับรายงานว่ามีคนพิการเสียชีวิต ประมาณ 30,000 ราย ในช่วงหนึ่งเดือนมานี้

ขณะเดียวกันก็มีตัวเลขของคนพิการเพิ่มขึ้นในทุก ๆ เดือน เดือนละประมาณ 2,000 ราย หากหักลบกันแล้ว แน่ใจว่างบประมาณที่รัฐบาลเตรียมไว้เพียงพอที่จะดูแลพี่น้องคนพิการ ทั้งนี้ จากการตัดยอดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา คนที่มีชื่ออยู่ในระบบอยู่แล้ว ได้รับเบี้ยคนพิการอยู่แล้ว มีบัญชีธนาคารเรียบร้อยแล้ว จะได้รับเงิน 10,000 บาท ในวันที่ 25 กันยายน แน่นอน

ส่วนผู้ที่ตกหล่นนั้น ตอบไม่ได้จริง ๆ เพราะในแต่ละท้องถิ่น บางครั้งจ่ายเงินให้คนพิการโดยที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน เป็นการตัดสินใจของท้องถิ่น และเมื่อไม่ได้ขึ้นทะเบียน เราก็ไม่สามารถส่งรายชื่อให้กระทรวงการคลังได้ จึงไม่สามารถบอกตัวเลขแน่ชัดได้ แต่คาดว่าไม่น่าจะเยอะ เนื่องจากงบประมาณของท้องถิ่นมีไม่มาก อีกทั้งยังมีกลุ่มของคนพิการและผู้สูงอายุที่อาจซ้ำซ้อนกันอยู่ด้วย

เปิดไทม์ไลน์โอนเงิน 4 รอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า กรมบัญชีกลางมีความพร้อมโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกิน 12.4 ล้านราย และคนพิการ ไม่เกิน 2.15 ล้านราย คนละ 10,000 บาท วงเงินรวม 145,552 ล้านบาท ตามเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้าย ดังนี้

โอนวันแรก วันที่ 25 กันยายน 2567 : คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0 จำนวน 3,167,565 คน

วันที่ 26 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3 จำนวน 4,505,454 คน

วันที่ 27 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7 จำนวน 4,511,025 คน

วันที่ 30 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9 จำนวน 2,254,584 คน

ชื่อตกหล่น-จ่ายเดือน ต.ค.

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ตกหล่น หรือสมัครบัญชีพร้อมเพย์ไม่ทัน จะมีการโอนซ้ำให้อีก 3 ครั้ง ดังนี้

รอบจ่ายซ้ำครั้งที่ 1 จ่ายวันที่ 22 ต.ค. 67 ต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายใน 10 ต.ค. 67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับ เลขประจำตัวประชาชนภายใน 18 ต.ค. 67

รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 จ่ายวันที่ 22 พ.ย. 67 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายใน 12 พ.ย. 67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายใน 18 พ.ย. 67

รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 3 จ่ายวันที่ 22 ธ.ค. 67 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายใน 3 ธ.ค. 67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายใน 16 ธ.ค. 67 เมื่อพ้นกำหนดแล้วจะยุติการจ่ายเงิน

ตรวจสอบสิทธิรับเงิน 10,000 บาท กลุ่มเปราะบาง ผ่านช่องทางต่อไปนี้

  • เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th
  • เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th
  • เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ)
  • แอปพลิเคชั่น “รัฐจ่าย” (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
  • ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร.0-2109-2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

หลังจากนั้นจะขึ้น “ผลการตรวจสอบ” หากได้รับสิทธิจะขึ้นข้อความ วันที่โอนเงิน อาทิ โอนเงินวันที่ 25 กันยายน 2567, โอนเงินวันที่ 26 กันยายน 2567, โอนเงินวันที่ 27 กันยายน 2567, โอนเงินวันที่ 30 กันยายน 2567 แต่ถ้าไม่ได้รับสิทธิจะขึ้นข้อความ “ไม่พบข้อมูล”

ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

1. คนพิการ

ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรศัพท์สายด่วน (Call Center) 1300

พก. โทร.0-2354-3388 ต่อ 701-702 (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)

ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่งได้ทางเว็บไซต์ www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter

อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร.0-2109-2345 ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

Call Center กรมบัญชีกลาง โทร.0-2270-6400 ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยขณะนี้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมที่จะจ่ายเงิน ดังนี้

  • วันที่ 25 กันยายน 2567 : คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0
  • วันที่ 26 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3
  • วันที่ 27 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7
  • วันที่ 30 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9

สำหรับในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ดังนี้

รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 1

จ่ายเงินภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 เงื่อนไข : ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 แล้ว ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2567

รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2

จ่ายเงินภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เงื่อนไข : ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่  12 พฤศจิกายน 2567 แล้ว ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567

รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 3 

จ่ายเงินภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 เงื่อนไข : ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 แล้ว ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567

อย่างไรก็ตาม เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ

สำหรับการรับเงินนั้น กรมบัญชีกลางจะโอนเข้าบัญชีผ่านช่องทางที่กำหนด ทั้งระบบพร้อมเพย์ผ่านหมายเลขบัตรประชาชน หรือบัญชีเงินฝากที่แจ้งความประสงค์ไว้ หรือช่องทางการรับเงินเบี้ยคนพิการ ตามที่ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ

ท่องเที่ยวเร่งแผนกระตุ้น

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงปลายปี 2567 ว่า ต้องพิจารณาเพราะขณะนี้มีเรื่องค่าเงินบาทที่พะวงอยู่ ส่วนอีเวนต์ต่าง ๆ ก็กำลังทยอยเข้ามา รวมถึงมีการเยียวยาสถานที่และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

เมื่อถามย้ำว่า ใกล้ช่วงปลายปี กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงใด นายสรวงศ์กล่าวว่า เรื่องการท่องเที่ยวมีแผนตายตัวอยู่แล้ว ส่วนการกระตุ้นของรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวให้มีสิทธิประโยชน์มากขึ้น

เมื่อถามว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะออกช่วงใด นายสรวงศ์เปิดเผยว่า ปลายเดือนนี้

เล็งฟื้นเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง

ก่อนหน้านี้ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์ว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวปี 2568 ททท.จะนำเสนอรายละเอียดเชิงลึกภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยเน้นย้ำการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และพิจารณาความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “คนละครึ่ง” หากเป็นประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง



Source link

Post a Comment

Previous Post Next Post